ช่องพลัง


2019-09-16 14:27

page's view : 142

ในระบบกายละเอียดมีช่องพลังหลักจำนวน 3 ช่อง ช่องพลังฝั่งซ้ายเรียกว่า อีดานาฑี ช่องพลังฝั่งขวาเรียกว่า ปิงคาลานาฑี ช่องพลังฝั่งกลางเรียกว่า สุษุมนานาฑี

1. ฝั่งซ้าย (อิดานาฑี) :

เป็นที่รู้จักกันในชื่อช่องพลังแห่งพระจันทร์ มีหน้าที่ดูแลเส้นประสาทอัตโนมัติ นำพลังงานมาให้ร่างกายใช้ เมื่อร่างกายเข้าสู่สภาพของอารมณ์ ความปรารถนาและความต้องการต่างๆ รวมทั้งการบันทึกประสบการณ์ในอดีตของเรา ช่องพลังฝั่งซ้ายในสภาพที่มีความบริสุทธิ์ช่องพลังนี้สามารถทำให้มนุษย์สามารถเข้าถึงอารมณ์ทางบวกที่ลึกซึ้งและปิติสุขที่สูงส่ง ได้แก่ความเบิกบานที่มาจากก้นบึ้งของหัวใจ ความรักและความเมตตาสงสารต่อผู้อื่น ปรกติแล้วมนุษย์จะมีความไม่สมดุลย์ในช่องพลังฝั่งซ้ายได้โดยง่าย เช่น การติดยึดทางอารมณ์ ความโศกเศร้า การขาดความเคารพในตนเอง ความรู้สึกผิด ความรู้สึกเฉี่อยชา เซื่องซึม เกียจคร้าน หรือมีนิสัยและประพฤติกรรมส่วนตัว สิ่งเหล่านี้สามารถจะใช้วิถีทางของสหจะโยคะแก้ไขได้ เทคนิคการชำระล้างช่องพลังของสหจะโยคะจะทำได้ทั้งง่ายและอย่างเป็นธรรมชาติ เช่น การบำบัดโดยใช้แสงสว่างและความร้อนของเทียน เพื่อชำระล้างช่องพลังฝั่งซ้าย

2. ช่องพลังฝั่งขวา (ปิงคาลานาฑี) :

ช่องพลังฝั่งขวาเป็นที่รู้จักว่า เป็นช่องพลังดวงอาทิตย์ ซึ่งประสาทอัตโนมัติฝั่งขวาจะดูแลการใช้พลังที่เกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์ การใช้เหตุผล การวางแผน ความคิดเรื่องอนาคต และพลวัตทางกายภาพของเรา ปรกติแล้วช่องพลังฝั่งขวาจะเสียสมดุลย์ได้ง่ายเมื่อบุคคลมีความอวดดี ทะนงตน มีทิฎฐิ มีนิสัยชอบครอบงำ ก้าวร้าว โกรธ เกลียด และตึงเครียด โดยการฝึกฝนในวิธีของสหจะโยคะ ช่องพลังฝั่งขวาสามารถเข้าสู่สมดุล และได้รับการชำระล้างโดยง่ายดาย (ยกตัวอย่าง โดยการใช้ธาตุน้ำ เช่น การแช่เท้าในน้ำเกลือ)

3. ช่องพลังตรงกลาง (สุษุมนานาฑี) :

ช่องพลังตรงกลาง (นาดีแปลว่าช่องพลัง) เป็นช่องพลังแห่งวิวัฒนาการและสมดุล มีหน้าที่ดูแลระบบประสาทอัตโนมัติที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของร่างกายที่เป็นไปโดยอัตโนมัติโดยเราแทบไม่รู้ตัว เช่น การเต้นของหัวใจ ระบบย่อยอาหาร เป็นต้น เมื่อสติของเราที่แกว่งเหมือนตุ้มน้ำหนักเคลื่อนย้ายไปมาระหว่างช่องพลังฝั่งซ้ายและขวา ยุติตรงช่องพลังฝั่งกลาง สติรู้ของความเป็นมนุษย์วิวัฒน์ขึ้น สติสัมปะชัญญะของเราจะยุติลงที่ช่องพลังนี้ และสติของเราจะเข้าสู่สภาพสมดุลย์ จากความเศร้ามาสู่ความสุข จาก เซื่องซึมมาสู่ความกระปรี้กระเปล่า และถึงจุดสมดุลย์ตรงปัจจุบัน สติสำนึกรู้ของเราเข้าสู่ความสงบ เส้นประสาทของเราจะเริ่มเต็มตื้นไปด้วยความปิติสุขหากเราสามารถรักษาสติไว้ที่ช่องกลางได้


มูลนิธิสหจะโยคะเป็นมูลนิธิที่ซึ่งไม่ได้แสวงหาผลกําไรและอุทิศตนเพื่อการพัฒนาตนเองเพื่อการตระหนักรู้ภายในตนเองโดยวิธีการนั่งสมาธิแบบสหจะโยคะ เราปราถนาให้ผู้ฝึกสมาธิได้เข้าถึงความปิติสุข ความเป็นหนึ่งเดียว และเพื่อให้ผู้ฝึกสมาธิได้ค้นพบตัวตนภายใน ความปิติสุขเบิกบาน ความรัก ความเมตตากรุณา และเข้าถึงแก่นแท้ของสัจธรรมโดยการนั่งสมาธิแบบ "สหจะโยคะ"